ทิปโก้เปิดตัวฟ้าทะลายโจรสกัดตรา “ทิปโก้” ต่อยอดนวัตกรรมกลุ่มสมุนไพรสกัด
13 พฤษภาคม 2564 11:08 น.. เปิดอ่าน 3,405
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทิปโก้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรสกัดภายใต้ตรา “ทิปโก้” คือ
ขมิ้นชัน จากเทคโนโลยีการปลูก และการสกัดของบริษัท และแหล่งวัตถุดิบอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ให้ปริมาณสารออกฤทธิ์เคอร์คูมิ นอยด์ปริมาณสูงมาก จึงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากช่วยเสริมภูมิต้านทานและภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และบรรเทาอาการ จุกเสียดท้องอืดท้องเฟ้อ และล่าสุดในเดือนพฤษภาคมนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่ม
ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสกัดตัวใหม่ คือ ฟ้าทะลายโจรสกัด
ประเทศไทยมีสมุนไพรดีๆ จำนวนมาก และในยุค Covid-19 สมุนไพรอย่างฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน และอีก หลายๆชนิด จึงได้ถูกนำมาศึกษาทดลองใช้รักษาผู้ติดเชื้อโควิดร่วมกับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน ดังกรณีที่กรมการ แพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564* ถึงผลการศึกษาทดลองให้ฟ้าทะลายโจรกับผู้ติดเชื้อโควิด มีฤทธิ์ช่วย ลดอักเสบ - ลดไข้ผู้ป่วยอาการน้อย และสร้างภูมิคุ้มกัน โดยผลการศึกษา 9 โรงพยาบาล ผู้ป่วย 304 คนที่มีอาการน้อย และไม่มีอาการปอดบวม ให้ยาฟ้าทะลายโจร 180 มก.ต่อวัน รวม 5 วัน พบว่าทุกราย อาการดีขึ้น ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง รวมถึงกรณีกรมการแพทย์แผนไทยฯใช้ฟ้าทะลายโจร รักษาดูแลผู้ป่วย เช่น โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์
ทั้งนี้ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรดั้งเดิมที่ใช้รักษาหวัดและอาการเจ็บคออันเกิดจากเชื้อไวรัส ได้รับการรับรองจาก ภาครัฐมานานแล้วอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ** ปัจจุบันในท้องตลาดมีการผลิตจำหน่ายเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ คือ
แบบที่ 1 แบบเม็ดผงบดบรรจุแคปซูล ซึ่งองค์การอาหารและยา (อย.) กำหนดว่าจะต้องมีความเข้มข้นของ สารออกฤทธิ์หรือตัวยาสำคัญเรียกว่าแอนโดรการ์โฟไลด์ (andrographolide) ไม่ต่ำกว่า 1% กรณีเม็ดผงบด 400 มก./เม็ด มีสารฯประมาณ 4 มก./เม็ด ดังนั้นกรณีหวัดทั่วไป หากต้องทานให้ได้สารฯ 60 มก./วัน ก็ต้องทานแบบเม็ดผงบด 15 เม็ด/วัน (เท่ากับ 4 เม็ด/มื้อ ที่ 4 มื้อ/วัน) และกรณีทดลองโควิด หากต้องทานให้ได้สารฯ 180 มก./วัน ก็ต้องทาน แบบเม็ดผงบด 45 เม็ด/วัน (เท่ากับต้องทานถึง 11-12 เม็ดต่อมื้อ ที่ 4 มื้อ/วัน)
แบบที่ 2 แบบเม็ดสารสกัดบรรจุแคปซูล (แบบของทิปโก้) จะมีความเข้มข้นของ แอนโดรการ์โฟไลด์สูงถึง 20 มก./เม็ด ดังนั้น หากต้องทานให้ได้สารฯ 60 มก./วัน ก็ทานแบบเม็ดสกัดเพียง 3 เม็ด/วัน (เท่ากับ 1 เม็ด/มื้อ ที่ 3 มื้อ/วัน) และหากต้องทานให้ได้สารฯ 180 มก./วัน ก็ทานเพียง 9 เม็ด/วัน (เท่ากับ 3 เม็ด/มื้อ ที่ 3 มื้อ/วัน) ทานน้อยกว่า แบบเม็ดผงบดหลายเท่า ทำให้ลดปริมาณรับประทานลงมาก ผู้บริโภคสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องทานยาเป็นกำ ยิ่งกว่านั้น แบบเม็ดสกัดจะมีสารออกฤทธิ์ค่อนข้างคงที่ จึงเป็นประโยชน์ต่อการรักษา ดังนั้น แบบเม็ดสกัดจึงจัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มี คุณสมบัติและราคาสูงกว่า ทั้งนี้ ยังสามารถทานคู่กับสมุนไพรอื่น เช่น ขมิ้นชันสกัด และวิตามินซี ที่จะเสริมการ ดูดซึมและผลการรักษาอีกด้วย
ฟ้าทะลายโจรสกัดของทิปโก้ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. เป็นยาสามัญประจำบ้าน ทำให้จำหน่ายได้ทุก ช่องทาง (ร้านสะดวกซื้อ ออนไลน์ ฯลฯ) นอกเหนือจากร้านขายยา โดยช่วงนี้ เพื่อความสะดวกแก่ผู้บริโภค ทิปโก้จึงเน้นการขาย ผ่านออนไลน์ส่งตรงถึงผู้บริโภค ที่
https://www.tipcoherb.com/ ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างมาก จึงกำลังเร่งการผลิต
นายยงสิทธิ์กล่าวว่า สมุนไพรไทยเป็นสิ่งที่มีคุณค่า โดยเฉพาะถ้ายกระดับคุณภาพด้วยการสกัด ทิปโก้จึงมุ่งมั่น ที่จะสรรสร้างเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ได้ผลดี มีคุณภาพ มีความปลอดภัย ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทย รวมถึงส่งออก ไปต่างประเทศ
และในสถานการณ์โควิดระบาดรุนแรงนี้ การที่คนไทยดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองอยู่แล้ว เช่น การใส่หน้ากาก และหมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างและหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชน การมีฟ้าทะลายโจรสกัดและ สมุนไพรอื่นเช่นขมิ้นชันสกัด ติดบ้านไว้ เพื่อพร้อมทานได้ทันทีหากเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อหรือเริ่มมีอาการ จึงเป็นทางเลือกเพิ่มในขั้นเตรียมตัวป้องกัน ตนเอง และในการลดความรุนแรงของอาการก่อนจะไปขั้นการตรวจเชื้อหรือรักษาในโรงพยาบาลต่อไป
อ้างอิง :
*
https://news.thaipbs.or.th/content/303508
**
http://pharmacy.su.ac.th/herbmed/drug/text/drug.php?drugID=56